วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

[TH trans] Chansung's Interview in TenAsia Mag (Part2)

เจอ 2PM Chansung เวลาบ่ายสองโมง

Q. ตอนนี้ 2PM ยังใช้ชีวิตร่วมกันในหอพักหรือเปล่า?

CS: ไม่ครับ ปีที่แล้วเริ่มที่ พี่มินจุนและอูยองออกไปก่อน พี่แทคยอนก็ออกไปครับ หลังจากนั้นพี่คุณ จุนโฮ และผม อยู่ด้วยกันสามคน, พี่คุณก็เมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งออกไปครับ จุนโฮก็บอกว่าหาบ้านได้แล้ว ไม่เคยคิดจะอยู่คนเดียวจนถึงเวลาก่อนเข้ากรมเลยนะครับ, ถึงไม่ใช่ความต้องการของผมก็ตาม แต่ผมก็กำลังหาบ้านอยู่เหมือนกันครับ

Q. ในขณะที่เมมเบอร์แต่ละคนต่างก็มีกิจกรรมขอตัวเองมากขึ้น คงจะมีตารางงานที่ทับซ้อนกันอยู่, เหมือนว่าจะมีทั้งความคาดหวังและความกังวลในการใช้ชีวิตคนเดียวอยู่นะ
CS: ต่างกันกับการอยู่ร่วมกันมากครับ ถ้ามีเวลาอยู่คนเดียวมากขึ้น ก็จะคิดมากขึ้นตามไปด้วย เคยอยากรู้มากๆเลยลองถามพี่มินจุนไปครับ ว่า "อยู่คนเดียวเป็นไงบ้าง" พอถามไป "เหงามาก มากๆ มาอยู่กับฮยองเหอะ" เขาว่างั้นครับ (หัวเราะ)

Q. เป็นคนอ่อนไหวง่ายกับความเหงาไหม

CS: คงเพราะผมไม่เคยใช้ชีวิตคนเดียว เลยชอบการอยู่คนเดียวมากๆครับ ไม่เคยคิดว่าการใช้เวลาร่วมกับใครๆเป็นสิ่งจำเป็น, แต่รู้สึกเวลาสำหรับอยู่คนเดียวจำเป็นมากกว่าครับ แต่ถ้าได้อยู่คนเดียวจริงๆขึ้นมาก็อาจจะเปลี่ยนความคิดได้นะครับ (คนแปล - สรุปก็คือไม่ขี้เหงาสิว่างั้น?)

Q. อัลบั้ม 2PM อัลบั้มที่ 4 Go Crazy อัลบั้มนี้ได้เข้าร่วมการทำงานเบื้องหลังด้วย

CS: ผมเริ่มเรียนแต่งเพลงเองตั้งแต่ปีนี้ครับ การลองผิดลองถูกไปเรื่อยสนุกดีครับ แต่จนถึงตอนนี้เพลงแต่งเองยังคงทำร่วมกับฮยองอยู่ครับ เพราะผมหมกมุ่นอยู่กับการเรียนแต่งเพลงมาก ในการแต่งเพลงบางทีก็ไม่สนใจโลกภายนอกเลย ถ้าหากสมาธิผมแข็งแกร่งและทำอะไรหลายๆอย่างในทีเดียวได้เหมือนหนวดปลาหมึกก็คงจะดีนะครับ แต่ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก

Q. ความรู้สึกตอนปล่อยเพลงแต่งเองอย่าง "Boyfriend" และ "คำว่ารัก" กับตอนดูหนังครั้งแรกคงจะต่างกัน 

CS: ต่างกันมากครับ อย่างเพลงนี่มันผ่านไปพรวดเดียวเลยครับ เพราะในคอนเสิร์ตมีเพลงที่ผมแต่งเองแค่เพลงสองเพลง (หัวเราะ) ถ้าผมแต่งเพลงเยอะๆ แล้วใส่เพลงตัวเองในคอนเสิร์ตได้เยอะๆ ความรู้สึกคงต่างกับตอนนี้มั้งนะครับ (คนแปล - ก็มีโซโล่สิคุณ,,,, คึๆๆๆๆ) 

Q. เริ่มอยากใส่เพลงของตัวเองลงในคอนเสิร์ตตอนไหน

CS: ผมอยากทำเพลงของตัวเองมาตลอดครับ

Q. ถ้ามีโซโล่อัลบั้มออกมา ผลงานจะออกมาเป็นแบบไหน

CS: คงจะไม่ใช่เพลงที่สนุกสนาน ไม่อยากใส่พวกเพลงที่ฟังง่ายๆเข้าไปเยอะครับ

Q. คิดไหมว่า ด้วยTV หรือสื่อมีเดียที่สะท้อนภาพของคุณออกมาจะทำให้เราเข้าใจคุณผิดได้

CS : อืม ถ้าลองค้นหากันสักหน่อยก็คงจะดี แน่นอนว่าการตัดต่อออกอากาศ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นได้ ถ้ามีคนด่าก็คิดว่าอยากจะชี้แจงให้เข้าใจครับ ดีนะครับ ที่ยังไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นออกมา

Q. ถ้างั้น ในทางตรงกันข้าม การเข้าใจผิดแบบนี้ก็ไม่เลวนะ ไม่มีอะไรแบบนั้นบ้างเหรอ

CS: อืม… เหนือกว่าสิ่งนั้น ผมคิดว่าถ้าผู้คนไม่มองว่าผมอ้วนหรือหนักก็คงจะดีครับ

Q. คิดว่าคนมองว่าเราเป็นคนหนักเหรอ

CS: ก็ไม่ทั้งหมดหรอกครับ มีท่านที่อายุมากกว่าผมหลายๆคน ท่านเหล่านั้น "ไออิกู ชานซองของเรา อูจูๆๆๆ(เป็นคำบรรยายอากัปกิริยาทำปากจู๋ๆๆอะไรแบบนั้น พวกผู้ใหญ่คงชอบพูดกับเด็ก)" พูดอย่างงั้นกันอ่ะครับ (หัวเราะ) พวกเขาก็มองข้อเสียผมในแง่ดีให้นะครับ 

Q. ข้อเสียของคุณที่อยากแก้ไข?

CS: ไม่ค่อยมีสติ ขี้ลืมด้วยครับ

Q. รู้มาว่าขยันออกกำลังกายมาก ไม่มีการบังคับเกี่ยวกับร่างกายเหรอ 

CS: เหมือนมีนะครับ เวลาดูรูป ถ้าน้ำหนักขึ้นก็หงุดหงิดครับ ดังนั้นตั้งใจจะรักษามาตรฐานไว้ให้ดี แต่ล่าสุดเดินทางไปอเมริกามา น้ำหนักขึ้นเยอะครับ เวลาน้ำหนักลงจะประมาณ 78kg, ปกติจะรักษาน้ำหนักไว้ท่ 80kgครับ แต่ไม่นานมานี้ชั่นน้ำหนัก น้ำหนักขึ้นเป็น 84.5kg! ช๊อคมากครับ ออกกำลังกายหนักมากๆ วันถัดมาลองชั่งน้ำหนักดูลงไป1kg ครับ "พี่ นี่มันอะไรกัน?" เขาว่าผมบวมน้ำ

Q. ยังไงก็ตาม 2PM ได้รับความนิยมจากภาพลักษณ์เซ็กซี่ ไอดอลสัตว์ป่า รู้สึกยังไงกับคำว่าเซ็กซี่บ้าง

CS: มีตอนที่เซ็กซี่ด้วยใช่ไหมครับ? ฮ่าๆๆๆ ต้องมีบ้างสิ เวลาที่อยู่กับผู้หญิง, อืม ฮ่าๆๆๆๆ

Q. ลองทำให้เป็นรูปธรรมดู เพราะการรู้ว่าตัวเองเซ็กซี่ตอนไหนเป็นสิ่งสำคัญนะ

CS: ด้วยความตั้งใจ ก็ไม่ได้จะโชว์เซ็กแอพเพียลนะครับ แต่ว่าต้องทำบรรยากาศให้มีกลิ่นอายแบบนั้นบ้างไม่ใช่เหรอครับ

Q. คำว่า 2PM มีอิทธิพลอย่างไรกับคุณบ้าง

CS: มีอิทธิพลมหาศาลเลยครับ คือโลกและจักรวาลของผม แน่นอนว่าทำให้โลกของผมเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา การเรียนรู้ ความรู้สึก ทุกสิ่งในชีวิตมาจาก 2PM ครับ สามารถบอกได้ว่าเป็นทั้งหมดของชีวิตผม แน่นอนว่าการใช้ชีวิตส่วนตัวต้องดำรงอยู่แต่, การเป็นสมาชิกของ 2PM นั้น สำหรับผมคือเรื่องที่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ครับ

Q. แล้วคิดว่าตัวเองมีอิทธิพลกับ 2PM อย่างไร

CS: ผมคิดว่าทีมในตอนนี้คือชีวิต เพราะไม่ใช่ผมเท่านั้น เมมเบอร์คนอื่นๆต่างก็ช่วยกันอุดรอยรั่วของ 2PM อยู่ เคล็ดลับของการประคองวงให้อยู่ได้นาน คือต้องดูว่าเชื่อใจซึ่งกันและกันมากแค่ไหน พวกเราเป็นกลุ่มที่คุยกันเยอะมากครับ ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น จะไม่คุยกันในทันที จะมีคนที่คอยดูสถาณการณ์ ซึ่งถ้าช่วงเวลาที่เหมาะมาถึง "อีกสักครู่มาคุยกันหน่อยนะ" พอพูดงั้นทุกคนก็จะกังวล "นี่ฉันไปทำอะไรผิดอีกรึ" คิดแบบนั้นไปด้วย (หัวเราะ) และก็เตรียมใจเปิดรับยอมรับทุกอย่างไปด้วยแล้วก็มาประชุมกัน พอมารวมตัวกัน "ฉันไม่รอบคอบเองที่พูดแบบนั้นในที่ๆมีคนเยอะ" "ขอโทษนะ จะแก้ไขให้" "ฉันทำผิดเอง แต่ตอนนั้นนายเองก็เป็นแบบเดียวกัน ต้องรู้ด้วยนะ" "ใช่ อันนั้นความผิดฉันเอง" คุยกันแบบนี้ครับ

Q. ก่อนเดบิ้วได้เข้าร่วมรายการออดิชั่น SBS 'Superstar Survival' (ปี2006) ตอนนี้เป็นฤดูกาลของรายการออดิชั่น ในฐานะรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์มาก่อน ในช่วงนี้ที่มีการแข่งขันสูง มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง

CS: อืม ถ้าให้พูดตรงๆ ผมคิดว่าอย่าทำเลยดีกว่าครับ แน่นอนว่าสิ่งดีๆก็มีเยอะครับ เพราะได้เทรนตัวเอง ได้รับการยอมรับ ได้ยืนบนเวที หลังจากนั้นก็มีมีโอกาสได้ทำกิจกรรมต่างๆ เพียงแต่สิ่งที่ทำให้ผมกังวล คือตัวเองหลังจากได้รับความสนใจแบบนั้น พอเดบิ้วเอาเข้าจริงๆ มีโอกาสอย่างมากที่จะไม่ได้รับความสนใจเท่าแต่ก่อนครับ ตอนที่โชว์เพลงของตัวเองที่อยากโชว์, มวลชนจะชอบหรือเปล่าก็ไม่สามารถรู้ได้ เหนือกว่าสิ่งใดเรายังเด็กอยู่มากครับ ถ้าได้เจอคนที่จะช่วยถ่ายทอดพรสวรรค์ให้ก็เป็นเรื่องดี แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับโอกาสนั้นครับ เมื่อตอนเป็นเด็ก ก็ยอมรับว่าใจเราก็ยังเด็ก การทำงานเป็นภาระที่หนักอึ้ง การจะเอาชนะภาระนั้นได้ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ ขณะทำกิจกรรมก็มีโดนด่า ถ้าสุขภาพจิตดีไปได้ดีก็ดีไป แต่จะดีแบบนั้นมีโอกาสเป็นไปได้น้อย พวกเขาบริสุทธิ์เกินที่จะต้องมีจิตใจที่บอบช้ำน่าสงสารแบบนี้ครับ

Q. ตัวเองเดบิ้วตอนอายุ 18 ปี รู้สึกว่าอายุตอนนั้นเด็กไปสำหรับการเดบิ้ว?

CS: สมแล้ว ผมคิดว่าผมสมควรแล้วที่เดบิ้วตอนวัยยังเด็กครับ

Q. การที่พูดแบบนั้น จริงๆแล้วรู้สึกอย่างไร

CS: มีความน่าเสียดายครับ เกิดเป็นคนไม่ว่าใครก็ตามก็ทำเรื่องผิดพลาดกันได้ ก่อนเดบิ้ว ทำผิดก็เรียนรู้และเริ่มต้นใหม่ได่ แต่หลังจากเดบิ้วนั้น การกระทำผิดนั้นๆมีผลประทบต่องานในอนาคตครับ เพราะเป็นเด็กเลยกระทำผิดพลาดไปบ้าง แต่มวลชนไม่ยอม(มองผ่าน)ให้ เพราะเป็นคนที่ได้รับความรักมากกว่าคนอื่นๆมากครับ เพราะอย่างงั้นจึงจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม การเตรียมสะสมทักษะเป็นสิ่งสำคัญก็จริงแต่ การทำให้ตัวเป็นเป็นคนที่คู่ควรและพร้อมจะแบกรับภาระนั้น และก็มีความแข็งแกร่งเพียงพอให้ได้ก่อนแล้วเริ่มต้นทำกิจกรรม(เดบิ้ว)เป็นสิ่งที่ดีครับ 

Q. คุณทะเลาะกับอะไรมาบ้าง
CS: ตอนนี้การกระทำของผมเป็นข่าวก๊อซซิปเลยทำให้คนหัวเราะและสนุกครับ ผมในตอนนี้ก็เป็นแบบ "ครับ เชิญสนุกกันไปฮะ" แต่ว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน เวลามีอะไรแบบนี้มันคือความเครียดครับ มันไม่หายไปง่ายๆด้วย อา ตอนนี้ผมดูเหมือนจะพูดวกไปวนมา ไม่รู้สินะ ถ้าสะสมประสบการณ์มากกว่านี้ อาจจะดีกว่านี้ก็ได้

(คนแปล - ขออนุญาติตีความค่ะ การเป็นดาราในเกาหลีเนี่ยมันต้องเริ่มต้นแต่เด็ก แต่สำหรับชานซองน่าจะเด็กเกินไป วัยเด็กยังไม่พร้อมที่รับความกดดันและความเครียดอะไรมากขนาดนั้น ชานคงหมายถึงว่าเขาควรจะใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดา สะสมประสบการณ์และเตรียมตัวเตรียมใจอีกสักนิดแล้วค่อยเดบิ้ว มันจะทำให้เขารับมือกับอะไรเครียดๆได้ดีกว่าเขาที่เดบิ้วตั้งแต่เด็กในตอนนี้.... อ่านเองเข้าใจเองแบบนี้นะคะ)

Q. ไม่นะ เป็นคำพูดที่สำคัญและถูกต้องเลย เหมือนว่าถ้ามีไทม์แมชชีนและย้อนกลับไป คงจะไม่เริ่มต้นในวงการบันเทิงตั้งแต่วัยเด็ก

CS: ไม่ทำครับ เหนือสิ่งนั้นคงจะเตรียมตัวให้มากขึ้นมากกว่า ขยันไปโรงเรียน ขยันเรียน

Q: ถ้าเป็นอย่างงั้นก็อาจจะไม่ได้เป็น 2PM เหมือนกับตอนนี้นะ


CS: อืม ก็อาจจะไม่ได้เป็นครับ อย่างไรก็ตาม มันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ครับ ตอนที่แสดง High Kick มีอาจารย์ท่านนึงกล่าวไว้ครับว่า "นายอ่ะ เดบิ้วเร็วเกินไป ต้องมีประสบการณ์มากกว่านี้ก่อนนะ น่าเสียดายจริง".. ในตอนนั้นผมไม่เข้าใจหรอกครับว่าท่านพูดถึงอะไร ตอนนี้ค่อนข้างจะทราบแล้วครับ

Q. ในการเป็น 2PM ก็ได้สนุกสนานกับประสบการณ์ที่คนอื่นเขาไม่สามารถทำได้นะ

CS: ทราบครับ ดังนั้นถึงมีความหมายสำหรับผมไงครับ พอดูตารางงานแล้ว แพลนยาวไปจนถึงก่อนเข้ากรมครับ มีทั้งเล่นคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น ปล่อยอัลบั้มที่เกาหลี งานเดี่ยวในตอนนี้ก็ได้ทำแล้ว…พอดูอย่างงี้ก็คิดว่าผมไม่ขาดอะไรแล้ว (หัวเราะ) อย่างไรก็ตามมันเหมือนพรให้กับผมนะครับ เป็นช่วงเวลาที่ได้ทำกิจกรรมที่ดี และก็อยากขอบคุณเหล่าผู้คนที่เข้ามาหาผมอย่างมากเลยครับ ทั้งคอนเสิร์ต รายการออกอากาศ เหล่าภาพยนต์ที่เผยตัวผม ผมเชื่อว่าได้สะสมประสบการณ์ที่ดีกลับไปมากเลยครับ

Q. ปีนี้ก็เหลืออีกไม่นานแล้วนะ ลองดูชานซองในปี 2014 แล้วให้คะแนนเท่าไหร่จากเต็ม 10?

CS: 8 คะแนน?

Q. สูงจังเลยนะ

CS: ผมทำงานหนักอย่างนั้นนี่ครับ จะให้แค่ 5 คะแนนไม่เกินไปหน่อยเหรอครับ (หัวเราะ)

(END)
TH Trans by Chansungstation
ที่มา http://m.news.naver.com/read.nhn?mode=LSD&mid=sec&sid1=106&oid=312&aid=0000063874

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น