วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

(แปล) สัมภาษณ์จุนโฮ จาก Ceci

Ceci : ที่ผ่านมาทำอะไรมาบ้าง


ตอนนี้กำลังมี World Tour ของ 2PM อยู่ครับ ก่อนหน้านี้มีวางขายอัลบั้มโซโล่ที่ญี่ปุ่นและ ขณะที่ทำกิจกรรมของ 2PM อยู่ก็ถ่ายทำภาพยนต์ Twenty ในเวลาเดียวกัน (Ceci:แค่ฟังก็รู้สึกว่าเป็นตารางงานที่เหนื่อยมากแล้วนะ) แค่ดูแลสุขภาพร่างกายก็โอเคแล้วครับ แต่ว่าก็มีปัญหาเรื่องเวลานอนไม่พอครับ (Ceci:คงต้องการเวลาพักผ่อนสินะ) ก็เพิ่งรู้สึกเอาครั้งนี้ล่ะครับ ในเวิร์ลทัวร์ครั้งนี้ก็ได้ไปทะเลที่แอลเอเป็นช่วงเวลาสั้นๆครับ แค่นั่งอยู่ใต้แสงแดดมองแต่ทะเลก็รู้สึกดีแล้วครับ ก็ไม่รู้ว่าจะมีช่วงเวลาสั้นๆแบบนั้นอีกเมื่อไหร่นะครับ อย่างไรก็ตาม มีเรื่องน่าเสียดายเยอะครับ การได้พักผ่อนก็เป็นเรื่องที่ดีนะครับ แต่งานของผมค่อนข้างแน่นและเร่งด้วย (Ceci:ความทะเยอทะยานสูงนะ) ตอนที่ทำกิจกรรมของ 2PM และถ่ายภาพยนต์เรื่อง Twenty ไปด้วย จริงๆแล้วร่างกายผมเพลียมากเลยครับ แต่เพราะเป็นงานที่ผมอยากทำก็แค่อดทนครับ

Ceci : ล่าสุด การถ่ายทำภาพยนต์ Twenty ก็จบลง


'Twenty' คือวัยรุ่น, เป็นเรื่องราวของเหล่าเด็กๆวัยยี่สิบ ทุกคนพูดถึงแต่ตอนที่มีเรื่องดีๆ แต่จริงแล้ว เป็นวัยที่พ่อแม่จะมีเรื่องกังวลเกี่ยวกับพวกลูกๆมากที่สุด ใช่ไหมล่ะครับ ทั้งเรื่องทางเดิน การเป็นทหาร ปัญหาเหล่านั้นก็เกิดขึ้นช่วงอายุยี่สิบ ในขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกันแก้ปัญหาไปได้ ตัวเราก็เผยให้เห็นความกังวลใจที่ไม่มีความสิ้นสุด ทั้งนี้มีเรื่องของความรัก และความหวังแฝงอยู่ในภาพยนต์เรื่องนี้ด้วยครับ

Ceci : คาแรคเตอร์ของทงโฮในหนังเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง


เป็นลูกชายที่เคยอยู่ในบ้านที่สุขสบายดี จนคุณพ่อล้มเหลวในธุรกิจเลยต้องมาเจอสภาพความจนที่เลวร้ายครับ และเป็นคาแรคเตอร์ที่ต้องทรมาณอดทนกับความหิวครับ ในตอนนั้นมีความฝันอยากจะเป็นนักวาดการ์ตูนด้วย ดังนั้นก็เลยทำงานพาร์ททามและมีความหวังเรื่องสอบเข้ามหาลัยอีกครั้งนึง เป็นคาแรคเตอร์ที่สะท้อนให้เห็นการใช้ชีวิตและจนจริงๆครับ (ยิ้ม)

Ceci : และก็ได้ร่วมงานกับเพื่อนที่อายุเท่ากันด้วย


อูบิน ฮานึล ไม่ได้มีจุดเหมือนกันเพียงแค่เป็นผู้ชายที่อายุเท่ากันเท่านั้น แต่การพูดคุยก็เข้ากันได้ดี พวกเราสนุกสนานกันมากครับ ตลอดการถ่ายทำมีหลุดก๊ากออกมาเยอะจนโดนคัทไปเยอะเลยครับ อย่างไรก็ตามการที่พวกเรามีบรรยากาศดีๆแบบนี้ ทำให้ภาพในสกรีนก็ออกมาดีด้วยครับ มันให้ประโยชน์ในด้านนี้ด้วยครับ

Ceci : ผู้กำกับ อีบยองฮอนก็เป็นคนสนุกมากไม่ใช่หรือ ได้รับคำสั่งหรือคำขออะไรจากเขาบ้างไหม


เขาสั่งให้แสดงให้เหมือนเป็นคนอายุยี่สิบจริงๆ ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก แต่การกระทำ การแสดงความรู้สึกต้องทำให้เด็กลงครับ เขาบอกว่าผมตอนนี้ดูหล่อเกินไป (หัวเราะ) ท่านคิดว่าผมดูเป็นผู้ใหญ่เกินไปเมื่อเทียบกับคนอื่นๆมั้งครับ ดังนั้น “ต้องเด็กกว่านี้อีก บ้ากว่านี้ก็ได้ ต้องดูจนกว่านี้อีก” ได้รับการล้างสมองแบบนี้ตลอดการถ่ายทำครับ จนสุดท้ายพวกเรากลายเป็นเด็กสมัยก่อนไปเลยครับ แต่เพราะเรื่องหิวของผมทำให้ผมดูเหมือนน้อยกว่า (ยิ้ม)

Ceci : ในชีวิตจริงใช้ชีวิตวัยยี่สิบยังไงนะ สงสัยจัง


ตอนอายุ 17 เริ่มใช้ชีวิตในสังคมในฐานะเด็กฝึกครับ รู้เดียงสาเร็วกว่าเพื่อนๆไปมากครับ ตอนนั้นอยู่ในฐานะเด็กฝึกที่ไม่ได้เดบิ้วสักทีตัวผมเองมีความไม่สบายใจและกังวลใจไม่น้อยเลยครับ (Ceci : ตอนนั้นก็คงมีอะไรให้คิดหลายอย่างเลยสิ) เป็นเพราะยิ่งในกลุ่มเพื่อนที่เริ่มต้นมาด้วยกัน ก็มีทั้งคนที่ถูกตัดออก และคนที่ย้ายไปบริษัทอื่นก็เยอะด้วยครับ ในตอนนั้น “อา ผมชอบเจวายพี ถ้าหากเขาบอกให้ผมออก จะทำยังไงดีนะ” คิดแบบนี้และก็ดูท่าทางของบริษัทตลอด เป็นช่วงเวลาที่ไม่สบายใจเอามากๆเลยครับ 

Ceci : ถ้าหากย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลานั้นได้


ก็มีช่วงเวลาที่อยากย้อนกลับไปนะครับ อยากเริ่มต้นทำงานนี้อีกรอบนึง (Ceci : เหตุผล?) ถ้ากลับไปเริ่มต้นอีกครั้ง ดูเหมือนว่าจะทำได้ดีกว่ามั้งครับ (คนแปล : น้องโฮน่าจะหมายถึง ถ้าเอาตัวเองในตอนนี้กลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง น่าจะสตาร์ทได้ดีกว่าตัวเองในตอนนั้นมั้งคะ)

Ceci : แม้ว่าจะเอาความสามารถที่สะสมมาตลอดเจ็ดปีกลับไปไม่ได้?


ไม่ไปครับ ถ้างั้นก็ไม่ไปเด็ดขาด (หัวเราะ) พูดกันตรงๆ ให้ใช้ชีวิตอีกครั้ง 7 ปีอ่ะได้ครับ แต่ถ้าให้กลับไปเป็นเด็กฝึกอีกครั้งนี่คงทำไม่ได้แล้วครับ (Ceci : ไม่มีความคิดอยากจะใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาบ้างเลยเหรอ) เพราะมันเป็นความฝันของผมตั้งแต่เด็ก ล่าสุด “คนทำงานธรรมดาเค้าใช้ชีวิตกันยังไงนะ” สิ่งที่ผมเคยสงสัย คำตอบมันออกมาในละครเรื่อง “미생” ผมลองสัมผัสคำตอบผ่านละคร สุดท้าย ผมคิดว่าผมทำงานเป็นนักร้องแบบนี้ต่อไปดีกว่าครับ (หัวเราะ)

Ceci : การเดบิ้วครั้งแรกกับการแสดง ในภาพยนต์เรื่อง Cold eyes เป็นเรื่องคาดไม่ถึงอย่างมาก


ถ้าเทียบกับเมมเบอร์คนอื่นๆแล้ว โอกาสของผมไม่ได้มาเร็วแต่อย่างใดหรอกครับ แต่เมื่อก่อนผมก็มีความสนใจด้านการแสดงเยอะเหมือนกันครับ สมัยม.ปลายก็เคยทำกิจกรรมแสดงละครครับ ถ้าดูจากอายุโอกาสของผมก็นับว่ามาเร็วเหมือนกัน แต่ถ้าดูจากในกลุ่ม โอกาสของผมดูเหมือนจะมาค่อนข้างช้าซะด้วยซ้ำครับ (Ceci เพราะเตรียมตัวกับอย่างอื่นอยู่หรือเปล่า) ไม่ใช่ครับ ทุกครั้งที่ได้สัมภาษณ์เรื่องการแสดง ผมจะพูดเสมอว่าผมเตรียมตัวพร้อม ถ้ามีโอกาสผมก็มั่นใจว่าผมจะทำมันได้ดีครับ แต่อย่างไรก็ตามการมอบโอกาสให้ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันง่ายๆเนอะครับ

Ceci : มีประสบการณ์ทั้งด้านร้องเพลงและการแสดงแล้ว เสน่ห์ของทั้งสองอย่างคือ?


ไม่ว่าใครจะว่าไง ผมว่าผมสบายใจกับการเป็นนักร้องมากกว่าครับ สำหรับการแสดง เพราะว่าตอนนี้มันเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ความรู้สึกที่เคยมีเมื่อเจ็ดปีก่อน ล่าสุดก็กลับมารู้สึกอีกครั้งนึง เพราะว่าผมไม่เคยเข้าคลาสการแสดงแยกมาก่อน เลยมีช่วงที่แสดงเหมือนตัวเองที่เป็นมาก่อนก็มี มาตรฐานไม่มั่นคงก็มี เพราะผมไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์ด้านนี้มาตั้งแต่ต้น ถ้ายังคงทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ มันน่าจะดีขึ้นไม่ใช่เหรอ ผมคิดว่างั้นนะครับ

Ceci : ล่าสุด อัลบั้มที่วางขายในญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมการโปรดิวซ์ มีแต่งเพลงเอง ไม่คิดบ้างเหรอว่านั่นคือพรสวรรค์ที่มีมาตั้งแต่เกิด


ให้พูดกันตามตรง มันเป็นเพราะความพยายามจนถึงที่สุดครับ ผมเคยคิดว่าหากได้มีกิจกรรมโซโล่ ผมอยากจะเขียนเพลงของผมขึ้นมาเองครับ ความปรารถนานั้นมันยิ่งใหญ่มากนะครับ เคยคิดว่าหากมีสิ่งใดที่อยากทำ ต้องวาดภาพไว้ก่อนแล้วมันจะต้องออกมาเป๊ะ แต่นั้นมันก็ออกมาไม่ได้ใกล้เคียงเลยครับ (Ceci : เป็นพวกเพอเฟคชั่นนิสรึเปล่าเนี่ย) จะว่าอย่างงั้นก็ได้ครับ แต่เพราะมันเป็น(อัลบั้ม)ของผมนี่ และก็โซโล่อัลบั้มมีชื่ออยู่ในฐานะโปรดิวเซอร์ด้วย ทำให้รู้สึกถึงความรับผิดชอบเท่าฐานะ(ตำแหน่งโปรดิวเซอร์)ด้วยครับ

Ceci : ต่อให้เป็นคนที่มีความทะเยอะทะยานสูง แต่คนที่จะทำได้แบบนี้มีไม่เยอะนะ


ด้วยตารางงานที่เหมือนแข่งขันกันเข้ามายิ่งทำได้ยากครับ ถึงแม้ว่าผมจะคิดเองคนเดียว ลองสร้างคนเดียว และประกอบมันขึ้นมาคนเดียว แต่มันไม่ใช่งานของผมคนเดียวเท่านั้นครับ ผมเอนจอยกับขั้นตอนเหล่านั้นมากครับ แต่ว่าตอนที่ต้องผ่านขั้นตอนการปรับเสียงไปให้ได้นั้น คือตอนที่ต้องทำงานร่วมกับคนอื่นเท่านั้นครับ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ดีหรือไม่ดีนั้น ผมพอใจกับมันครับ ในเมื่อมีคนที่พกพรสวรรค์นี้มาแต่เกิด ก็มีคนที่พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้ยินคำว่า “มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เกิด” เหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ ผมเหมือนจะเป็นคนที่สองนะครับ

Ceci : ถ้าอยากแสดงอีกครั้ง บทบาทแบบไหนที่อยากได้รับ 


บทตัวร้ายก็ไม่เลวนะครับ ไม่ใช่ตัวร้ายเลวสกปรกนะครับ ออกแนวฉลาดแกมโกง พูดตามตรงอยากลองแสดงบทบาทแบบนั้นบ้างก็จริง แต่ยิ่งกว่าบทบาทนั้น ก่อนที่จะแก่ไปมากกว่านี้อยากลองท้าทายกับบทบาทวัยรุ่นใส่ชุดนักเรียนด้วยครับ บทตัวร้ายเป็นความทะเยอทะยานส่วนตัวของผมเองครับ 

Ceci : ปี 2015 ในปีนี้มีแพลนอะไรบ้าง


ทุกปี อยากแสดงภาพยนต์ปีละเรื่อง และก็ปล่อยอัลบั้มโซโล่ปีละอัลบั้ม (หัวเราะ) ส่วนตัวแล้ว ขอให้ 2PM ไปได้ดี เมมเบอร์ทั้งหลายมีสุขภาพที่ดีด้วยก็จะดีมากครับ

TH trans by _sowon211
ขออภัยล่วงหน้าหากมีแปลผิดพลาด
ที่มา http://mnbmagazine.joins.com/magazine/Narticle.asp?magazine=201&articleId=1LQ8OG2RSA6YZQ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น